วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ปลิงขาวทะเลแห้งขนาดต่างๆครับ (dried white sea cucumbers size number 0-4)


 ปลิงขาวมีการรมดำเล็กน้อยเพื่อป้องกันแมลงและไม่ให้ตัวปลิงแตกหลังจากต้มแล้วครับ
white sea cucumber property  little smoke because It reduce broke thing after  boiling


แบบรมดำเล็กน้อย

วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

กุ้งมังกร lobster เป็นๆ , ปูม้า เป็นๆ , ปลิงทะเล (sea cucumber)

ราคากุ้งมังกรสีเดียว ครับ

 ขนาด  3-4 ตัว/กิโลกรัม     2,500  บาท

 ขนาด  2-3 ตัว/กิโลกรัม     3,000  บาท

ราคากุ้งมังกรหลายสี

ขนาด  3-4 ตัว/กิโลกรัม    3,500  บาท

ขนาด  2-3 ตัว/กิโลกรัม    4,000  บาท


ราคาปูม้าเป็นๆ ครับ

ขนาด 7 ตัว/กิโลกรัม    กิโลกรัมละ  280  บาท

ขนาด 6 ตัว/กิโลกรัม    กิโลกรัมละ  320  บาท

ขนาด 5 ตัว/กิโลกรัม    กิโลกรัมละ  360  บาท

ขนาด 4 ตัว/กิโลกรัม    กิโลกรัมละ  400  บาท





 ปลิงทะเลต้มแล้วเทียบกับปากกาครับผม


วันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ราคาจำหน่ายปลิงขาวตากแห้ง

สำหรับราคาปลิงขาวทะเลตากแห้งที่ทุกท่านสอบถามกันมานะครับ

ปลิงขาวจัมโบ้ เบอร์ 0   ขนาด  8-10  ตัว/กิโลกรัม  ราคาขีดละ  750  บาท ราคากิโลละ  6,000  บาท

ปลิงขาวเบอร์ 1   ขนาด  12-15 ตัว/กิโลกรัม           ราคาขีดละ  600  บาท ราคากิโลละ  5,000  บาท

ปลิงขาวเบอร์ 2   ขนาด  20-30 ตัว/กิโลกรัม           ราคาขีดละ  500  บาท ราคากิโลละ  4,200  บาท

ปลิงขาวเบอร์ 3   ขนาด  40-60 ตัว/กิโลกรัม           ราคาขีดละ  400  บาท ราคากิโลละ  3,300  บาท

ปลิงขาวเบอร์ 4   ขนาด  80-120 ตัว/กิโลกรัม         ราคาขีดละ  220  บาท ราคากิโลละ  1,700  บาท

หมายเหตุ ราคาอาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล

สอบถามเพิ่มเติมที่  088-0497884,095-5296536

ขั้นตอนการขัดปลิงขาวทะเลเพื่อเอาคราบหินปูนที่เกาะบนตัวปลิงออกครับ


หลังจากปลิงตากแดดครบ  15-20 วัน ก็จะกลายเป็นปลิงแห้งสนิทครับ
ปูม้าเป็นๆ จากทะเลอันดามันครับ  ใครสนใจสอบถามมาได้ครับ 














จัดส่งเร็วทันใจด้วยระบบ EMS ติดตามได้



ธ.กรุงไทย  สาขาประตูเมือง   หมายเลขบัญชี  425-0045-24-2

ชื่อบัญชี คุณปิยวัตร   เมืองจันทร์



ผู้บริหารงานโดย



คุณปิยวัตร   เมืองจันทร์ (คุณเอ็ม)  ปริญญาตรี
คณะ สาธารณสุขศาสตร์  มหาวิทยาลัยขอนแก่น





วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ภาพปลิงทะเล


ขั้นตอนการต้ม และขัดปลิงทะเล    (ปลิงขาว) ขนาด 6-8 ตัว/kg และ
ขนาด 10-12 ตัว/kg

วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ม้าน้ำ

ม้าน้ำ (อังกฤษSeahorse) เป็นปลากระดูกแข็งที่อาศัยอยู่ในทะเลจำพวกหนึ่ง จัดอยู่ในวงศ์ย่อย Hippocampinae (ซึ่งมีอยู่ 2 สกุล คือหนึ่งสกุลนั้นคือปลาจิ้มฟันจระเข้สัน ที่อยู่ในสกุล Histiogamphelus มีรูปร่างคล้ายปลาจิ้มฟันจระเข้ผสมกับม้าน้ำ) ในวงศ์ Syngnathidae อันเป็นวงศ์เดียวกับปลาจิ้มฟันจระเข้และมังกรทะเล ในอันดับ Syngnathiformes

ลักษณะ[แก้]

ม้าน้ำ เป็นปลาที่มีรูปร่างลักษณะแตกต่างไปจากปลาชนิดอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด กล่าวคือ มีกระดูกหรือก้างมาห่อหุ้มเป็นเกราะอยู่ภายนอกตัวแทนเกล็ด ส่วนหางของแทนที่จะเป็นครีบสำหรับว่ายน้ำไปมาอย่างปลาชนิดอื่น กลับมีหางยาวเหมือนสัตว์เลื้อยคลาน มีไว้เพียงเพื่อเกี่ยวยึดตัวเองกับพืชน้ำหรือปะการังในน้ำ มีครีบอกและมีครีบบางใสตรงเอวอีกครีบหนึ่งช่วยโบกพัดกระพือ โดยครีบทั้ง 2 นี้จะโบกพัดด้วยความเร็วประมาณ 20-30 ครั้งต่อวินาที ทำให้เคลื่อนไหวไปมาได้อย่างช้า ๆ ซึ่งโดยปกติแล้วม้าน้ำมักจะว่ายน้ำเป็นไปในลักษณะขึ้น-ลง มากกว่าไปมาข้างหน้า-ข้างหลังเหมือนปลาชนิดอื่น โดยถือเป็นปลาที่ว่ายน้ำช้าที่สุดในโลกอีกด้วย โดยว่ายได้เพียง 0.06 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น[3] ปากยื่นยาวคล้ายท่อไม่มีกราม ตรงปลายมีที่เปิด ใช้สำหรับดูดกินอาหาร จำพวกแพลงก์ตอนและสัตว์น้ำขนาดเล็ก ๆ อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนสีลำตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ด้วย เพื่ออำพรางตัว[4]
ม้าน้ำ เหมือนกับปลาชนิดอื่น ๆ ที่อยู่ในวงศ์เดียวกันนี้ คือ ตัวผู้จะเป็นฝ่ายอุ้มท้อง โดยมีอวัยวะตรงบริเวณหน้าท้องคล้ายถุง ใช้สำหรับเก็บไข่และฟักเป็นตัว เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ม้าน้ำตัวผู้จะปรับเปลี่ยนสีของลำตัวเพื่อดึงดูดม้าน้ำตัวเมีย จากนั้นตัวผู้จะใช้หางโอบกอดตัวเมียพร้อมกับแอ่นท้องประกบกับท้องเข้าหากัน ตัวเมียจะออกไข่ใส่ลงในถุงหน้าท้องของตัวผู้ และม้าน้ำตัวผู้ก็จะปล่อยน้ำเชื้อเข้าผสมกับไข่และฟักเป็นตัวอ่อนภายในถุงหน้าท้อง โดยใช้เวลาฟักเป็นตัวประมาณ 2 สัปดาห์ โดยจำนวนไข่ประมาณ 100-200 ฟอง มากที่สุดคือ 1,500 ฟอง ตามแต่ละชนิด
เมื่อคลอด พ่อม้าน้ำก็จะบีบกล้ามเนื้อส่วนท้องและพ่นลูกม้าน้ำทั้งหมดออกจากกระเป๋าหน้าท้อง โดยที่ม้าน้ำมีพฤติกรรมแบบคู่เดียวตลอดทั้งชีวิต กล่าวคือ จะจับคู่อยู่กันเพียงตัวเดียว หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีอันเป็นไป ก็จะไม่หาคู่ใหม่[5]

ชนิด[แก้]

ม้าน้ำ มีความยาวโดยเฉลี่ยประมาณ 15 เซนติเมตร ตามแต่ละชนิด โดยขนาดเล็กเช่น ม้าน้ำจำพวกม้าน้ำแคระ จะมีความยาวเพียง 2.5 เซนติเมตรเท่านั้น มีการแพร่กระจายพันธุ์ในทะเลเขตอบอุ่นทั่วทั้งโลก ปัจจุบันพบทั้งหมด 47 ชนิด[6] ส่วนม้าน้ำที่พบได้ในน่านน้ำไทยมีประมาณ 6 ชนิด ได้แก่
  • ม้าน้ำหนาม (H. spinosissimus) อาศัยอยู่ในบริเวณน้ำค่อนข้างลึกและสภาพน้ำค่อนข้างใส มีสีสันสวยงาม มักจะมีสีออกน้ำตาลแดง มีลายจุดสีออกขาว เป็นแถบกว้างคาดบริเวณลำตัว มีหนามมากค่อนข้างแหลมและยาว แต่มีขนาดเล็กกว่าม้าน้ำดำ
  • ม้าน้ำแคระ (H. mohnikei) มีขนาดเล็กที่สุด พบเห็นไม่บ่อยนัก ลำตัวตัวสีดำ อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่ง เกาะอยู่ตามสาหร่ายทะเล บริเวณที่เป็นพื้นทราย
  • ม้าน้ำหนามขอ (H. histrix) มีลักษณะที่แตกต่างไปจากชนิดอื่น คือ มีปากขนาดยาวกว่า มีหนามที่เหนือตาและมีส่วนหน้าที่ยาวอย่างเห็นได้ชัด มีหนามบนหัว หนามตามลำตัวและหางจะแหลม บริเวณปลายหนามจะมีสีดำเข้ม เมื่อเอามือไปสัมผัสจะรู้สึกว่าเกี่ยวติดมือ หนามที่หางมีความยาวเท่า ๆ กัน

ความสำคัญต่อมนุษย์[แก้]

ม้าน้ำแห้งที่ใช้สำหรับทำยาจีน ในเมืองกวางโจว
ม้าน้ำ เป็นปลาที่นิยมทำเป็นยาจีนตามตำราการแพทย์แบบจีน ด้วยเชื่อว่าบำรุงกำลังและเสริมสมรรถนะทางเพศ โดยจะทำไปตากแห้งและขายเป็นชั่งน้ำหนักขาย ทำให้ม้าน้ำทั่วโลกในปีหนึ่ง ๆ ถูกจับเป็นจำนวนมากเพื่อการนี้ และยังถูกนำไปทำเป็นเครื่องประดับอีก จนกลายทำให้เป็นสัตว์หายากและใกล้สูญพันธุ์ในบางชนิด
นอกจากนี้แล้ว ความที่เป็นปลาที่มีรูปร่างแปลก มีขนาดเล็กน่ารัก ทำให้เป็นที่นิยมเลี้ยงของผู้ที่นิยมการเลี้ยงปลาตู้ด้วย ซึ่งในปัจจุบัน มีม้าน้ำบางชนิดสามารถนำมาเพาะขยายพันธุ์ในที่เลี้ยงได้แล้ว[7]


ปลิงดำตากแห้งครับ




ปลิงดำตากแห้งขนาด  40-60  ตัวต่อกิโลกรัม  ราคา 2,800  บาท/กิโลกรัม

ปลิงดำตากแห้งขนาด  80-100  ตัวต่อกิโลกรัม  ราคา 2,000  บาท/กิโลกรัม

ปลิงดำตากแห้งขนาด  120  ตัวขึ้นไป ต่อกิโลกรัม  ราคา 1,500  บาท/กิโลกรัม


วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ปลิงทะเล หน้ารู้ครับ

ปลิงทะเล (อังกฤษsea cucumber) เป็นสัตว์ทะเลที่ไร้กระดูกสันหลังชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในตระกูลเอคไคโนเดิร์ม ซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกับดาวทะเลและหอยเม่น เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่มีรูปร่างกลมยาว คล้ายไส้กรอกขนาดใหญ่ ปลายทั้งสองข้างเป็นช่องเปิดของปากและทวาร ผิวหนังส่วนนอกคล้ายเนื้อยืดหยุ่นได้ ภายในผิวหนังมีตุ่มเม็ดหินปูนกระจายอยู่ทั่วไปตามผิวนอกมีติ่งเนื้อเล็ก ๆ คล้ายหนวดสั้น ๆ เรียงอยู่เป็นแถว ทำหน้าที่ช่วยในการหายใจและเคลื่อนไหว ปากของปลิงทะเลอยู่ตอนปลายสุดด้านที่มีหนวดลักษณะคล้ายต้นไม้ล้อมรอบ ทำหน้าที่ในการหาอาหาร โดยใช้หนวดขุดโคลนตมหน้าดินเข้าปากผ่านเข้าสู่ระบบทางเดินอาหาร และกากที่เหลือจะถ่ายออกทางช่องก้นซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่ง ทวารของปลิงทะเลเป็นช่องเล็ก ๆ ทำหน้าที่ในการขับถ่ายของเสีย หายใจ เป็นทางออกของเชื้ออสุจิ ปลิงมีสารพิษ โฮโลทูลิน ซึ่งปล่อยออกทางผิวหนัง ใช้ในการป้องกันอันตรายจากปลาและปู ถ้าหากนำปลิงทะเลไปใส่ในตู้เลี้ยงปลามันจะปล่อยสารพิษดังกล่าวออกมามากจนทำให้ปลาตายได้ ถิ่นอาศัย พบตามพื้นทะเลที่เป็นทรายปนโคลนใน อ่าวไทยและทะเลอันดามัน อาหาร กินอินทรีย์วัตถุตามพื้นดินโคลนและทราย ขนาด มีความยาวประมาณ 30–40 ซม. ประโยชน์ เนื้อปลิงใช้ปรุงอาหารได้
การแพร่กระจายของปลิงทะเล อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลในระดับความลึก 20-30 เมตร สามารพบได้ในบริเวณหาดทรายปนเลนหรือทรายล้วน ๆ หรือตามบริเวณที่มีกระแสน้ำ ตามเกาะบริเวณปะการัง และสภาพน้ำทั่วไป อุณหภูมิน้ำอยู่ระหว่าง 24-28 องศาเซลเซียส ความเค็มสามารถอยู่ได้ในระดับ 27-35 ppt และสามารถอยู่ได้ในระดับความเค็มต่ำกว่า 10 ppt ถึง 17 ชั่วโมง ซึ่งถ้าอยู่ในระดับความเค็มสูง จะมีความแข็งแรงกว่าความเค็มต่ำ ปลิงทะเลสามารถงอกส่วนที่ขาดได้ภายในระยะเวลา 2 เดือน (chen jia xin, 1990) และปลิงทะเลจะเริ่มลงสู่พื้นในระยะ Perdactula เมื่อมีอายุประมาณ 12 วัน ปลิงทะเลปกติไม่ชอบแสงสว่าง และออกหาอาหารในเวลากลางคืน

คุณค่าทางอาหาร[แก้]

ปลิงทะเลมีโปรตีนประมาณ 10-12% ความชื้น 70-80% ไขมัน 0.002-0.04% และเนื้อปลิงทะเลยังมีสารมิวโคโปรตีนที่มี Chondroitin sulfurie acid คาดว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้สูงอายุ โดยการช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานได้ดี
นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นพบว่า ในเนื้อปลิงทะเล Stichopus japonicus มีมิวโคโปรตีน (mucoprotein) ปริมาณสูงซึ่งมิวโคโปรตีนนั้น มีคอนดรอยติน ซัลฟุริค แอซิด (Chondroitin - sulfuric acid) อยู่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ และจากการศึกษาในผู้สูงอายุยังพบว่า การที่กล้ามเนื้อไม่สามารถทำงานได้นั้น เนื่องจากปริมาณของคอนดรอยติน ซัลฟุริค แอซิด ลดลง ดังนั้นจึงอาจใช้เรื่องนี้เป็นเหตุผลอธิบายการที่ชาวจีนนิยมรับประทานปลิงทะเลกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ คอนดรอยติน ซัลฟุริค แอซิด ตามธรรมชาติมักอยู่ในสภาพมิวโคโปรตีน ซึ่งเป็นองค์ประกอบของส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ เช่น กระดูกอ่อน เอ็น และของเหลวที่หล่อลื่นตามข้อต่าง ๆ ดังนั้น การรับประทานปลิงทะเลก็นับว่าให้ประโยชน์แก่ร่างกายได้เช่นกัน